ซอสพริกศรีราชา เป็นซอสพริกอีกประเภทหนึ่งที่มีรสชาติ กลิ่น และเนื้อซอส แตกต่างจากจากซอสพริกธรรมดา โดยซอสพริกศรีราชาจะมีวัตถุดิบและกรรมวิธีเฉพาะที่มีความพิถีพิถัน เป็นเอกลักษณ์ของซอสพริกศรีราชาเอง
ซอสพริกศรีราชา ถูกเรียกชื่อตามอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 80 ปีก่อน เริ่มจากเป็น “น้ำพริก” ฝีมือของคุณแม่ถนอม จักกะพาก ที่เป็นสูตรลับส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อรับประทานคู่กับอาหารทะเลไว้กินกันภายในครอบครัว แต่เมื่อนำไปให้เพื่อนบ้านได้ลองทานแล้วต่างก็ติดใจในรสชาติ ความอร่อยแบบปากต่อปากนี่เองจึงก่อเกิดเป็นซอสพริกวางขายให้กับคนในอำเภอศรีราชาและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของซอสพริกศรีราชาในนาม “ศรีราชาพานิช” หนึ่งในผู้ผลิตเจ้าแรกที่ได้รับความนิยม เพียงไม่นานชื่อเสียงของซอสพริกศรีราชาพานิชก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างและเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอำเภอศรีราชา ต่อมาในปี พ.ศ. 2527บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อกิจการและจัดจำหน่ายจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในประเทศไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศจนถึงปัจจุบัน
ซอสพริกศรีราชา “ตราศรีราชาพานิช” เป็นต้นตำรับของสูตรซอสพริกศรีราชาที่ให้ความสำคัญกับส่วนประกอบและคัดสรรวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี ทั้งพริกชี้ฟ้า (สีแดง สด ผิวเกลี้ยง และมีขนาดเท่าๆ กัน) กระเทียมไทย, น้ำตาลทรายขาว น้ำส้มสายชู และเกลือ ทั้งหมดผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันหลากหลายขั้นตอน รวมถึงกรรมวิธีเฉพาะที่ต้องหมักพริกให้ได้ที่นานถึง 3 เดือน ก่อนจะนำมาปรุงรส ให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของซอสพริกศรีราชาพานิชนั้นต้องได้รสสัมผัส “เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน” พร้อมกันในครั้งแรกที่ได้ชิม พร้อมๆ กับเนื้อซอสเข้มข้นกำลังดี ที่สำคัญเพื่อให้เป็นซอสที่สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติของซอสพริกแท้ๆ มากที่สุด ซอสพริกศรีราชาพานิชจึงไม่ใส่ผงชูรส ไม่เจอสี ไม่ใส่วัตถุกันเสีย และไม่ผสมแป้ง ในทุกขวดที่ส่งตรงถึงผู้บริโภคทุกคน
ซอสพริกศรีราชาพานิชให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยม โดยส่วนประกอบหลักที่ใช้เป็นพริกชี้ฟ้า คัดเฉพาะเม็ดสด สีแดง ผิวเกลี้ยง และมีขนาดที่เท่าๆ กันเท่านั้น และจะเพิ่มพริกขี้หนูลงไปสำหรับสูตรเผ็ดมาก
ซอสพริกศรีราชาพานิชผลิตจากพริกล้วนๆ ไม่ผสมแป้ง ไม่เจอสี ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ เพื่อคงรสชาติดั้งเดิมของสูตรต้นตำรับไว้ให้มากที่สุด ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าสีแดงของตัวซอสนั้นเป็นสีตามธรรมชาติที่มาจากเนื้อพริกโดยแท้จริง
ปัจจุบันซอสพริกศรีราชาพานิชประกอบด้วย 2 สูตร ได้แก่ - สูตรเผ็ดมาก มีขนาด 250 กรัม, 280 กรัม และ 570 กรัม - สูตรเผ็ดกลาง มีขนาด 250 กรัม, 280 กรัม, 570 กรัม และแบบถุง ขนาด 900 กรัม
แต่เดิมนั้นซอสพริกศรีราชาพานิชนิยมนำไปรับประทานคู่กับอาหารทะเล แต่ในปัจจุบันสามารถนำซอสไปประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปรับประทานเป็นซอสจิ้มหรือปรุงแต่งรส เช่น ไข่เจียว ไก่ทอด เฟนช์ฟราย พิซซ่า ราดหน้า เป็นต้น หรือนำไปปรุงเป็นส่วนประกอบในน้ำจิ้มและซอสต่างๆ เช่น ซอสสุกี้ น้ำสลัด น้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นต้น รวมถึงเป็นเครื่องปรุงสำหรับอาหารไทยและอาหารต่างประเทศ เช่น ผัดไทย ข้าวผัด หมูปิ้ง สปาเก็ตตี้มีทบอล เฝอ แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น
ตามหลักกฎหมายในการขอจดทะเบียนชื่อผลิตภัณฑ์หรือตราสินค้าในประเทศไทยนั้น ยังไม่อนุญาตให้นำชื่อเฉพาะของสถานที่ในประเทศมาจดทะเบียนพานิชย์ได้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงข้อดังกล่าวชื่อของซอสพริกศรีราชา “ตราศรีราชาพานิช” จึงต้องสะกดเป็น “SrirajaPanich” จึงทำให้แตกต่างจาก “Sriracha” ที่นิยมใช้กันในต่างประเทศ และแตกต่างจากตัวสะกดของอำเภอศรีราชาที่ใช้เป็น “Si Racha” แต่ทั้งนี้ หากต้องการลิ้มลองซอสพริกศรีราชารสต้นตำรับก็ต้องมองหา “SrirajaPanich” เท่านั้น
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตามร้านค้า และห้างสรรพสินค้าทั่วไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. 02-703-4950
ซอสพริกศรีราชาพานิช จัดจำหน่ายใน 50 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทวีปอเมริกา เอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และโอเชียเนีย